ตอนนี้น้ำประปาในบางพื้นที่มีรสเค็ม เนื่องจากน้ำทะเลหนุน หากต้องการซื้อเครื่องกรองน้ำจะต้องคำนึงถึงเครื่องกรองที่สามารถกรองน้ำกร่อยได้
ดูเครื่องกรองน้ำกร่อยรหัสอ้างอิง X1234
ไม่ได้รับรหัส? ส่งรหัสอีกครั้ง ในอีก 59 วินาที
รหัสอ้างอิง X1234
ไม่ได้รับรหัส? ส่งรหัสอีกครั้ง ในอีก 59 วินาที
น้ำ ถือว่าเป็นปัจจัยสำคัญที่มนุษย์อย่างเราๆ จำเป็นในการดำรงชีวิต เราจึงควรเลือกเลือกดื่มน้ำที่สะอาดและปลอดภัย เครื่องกรองน้ำจึงถูกผลิตมาเพื่อเป็นอุปกรณ์ช่วยในการขจัดสารปนเปื้อนที่มากับน้ำดื่มและการติดตั้งเครื่องกรองน้ำสำหรับใช้ในบ้านจึงเป็นวิธีที่ดีและง่ายที่สุดในการกรองน้ำสะอาด ดังนั้น การเลือกเครื่องกรองน้ำสำหรับใช้ภายในบ้านจึงเป็นเรื่องสำคัญ แต่เครื่องกรองน้ำที่เลือกควรได้รับการรับรองและผ่านมาตรฐานสากลที่ได้รับการยอมรับจากทั่วโลก ก่อนจะตัดสินใจเลือกซื้อเครื่องกรองน้ำ เรามาทำความรู้จักมาตรฐานเครื่องกรองน้ำกันก่อนดีกว่า ว่ามีหลักเกณฑ์การประเมินอย่างไรบ้าง มาตรฐาน NSF/ANSI คือ การควบคุมโดยองค์กรส่งเสริมอนามัยแห่งชาติระหว่างประเทศมีหลักเกณฑ์ในการประเมินประสิทธิภาพของเครื่องกรองน้ำที่ถูกต้อง และได้รับการยอมรับในหลายประเทศ เครื่องกรองน้ำที่ผ่านการตรวจสอบโดย NSF International คือ ผลกระทบด้านกายภาพ : ทดสอบประสิทธิภาพของเครื่องกรองน้ำในการลดปริมาณสิ่งปนเปื้อนใน น้ำดื่มที่มีผลกระทบต่อรสชาติ กลิ่น และความใสของน้ำดื่ม ผลกระทบด้านสุขภาพ : ทดสอบประสิทธิภาพของเครื่องกรองน้ำในการลดปริมาณสิ่งปนเปื้อนใน น้ำดื่มที่มีอยู่มากมายหลายชนิดรวมถึงสารตะกั่ว แร่ใยหิน สารประกอบอินทรีย์ที่ระเหยได้ และสารกำจัดศัตรูพืช การบำบัดน้ำทางจุลชีววิทยาด้วยแสงอุลตร้าไวโอเล็ท : ทดสอบกับเครื่องกรองน้ำที่ใช้ แสงอุลตร้าไวโอเล็ทในการกำจัดเชื้อโรคในน้ำดื่ม
เครื่องกรองสามารถทนแรงดันน้ำได้ที่ 4 Bar ซึ่งโดยปกติน้ำประปาจะมีแรงดันอยู่ที่ประมาณไม่เกิน 1 - 1.5 Barแต่ในส่วนของบ้านลูกค้าที่มีการติดตั้งปั๊มน้ำเพิ่มเติมหรือที่ติดตั้งเป็นคอนโดฯ จะมีแรงดันน้ำที่มากขึ้น แนะนำให้มีการตรวจวัดแรงดันน้ำก่อนการติดตั้งถ้ามีแรงดันน้ำสูง (ตั้งแต่ประมาณ 3 Barขึ้นไป) แนะนำให้มีการติดตั้งวาล์วลดแรงดันน้ำเพื่อเป็นการลดการขยายตัวของชุดกระบอกที่ต้องทนแรงอั้นของน้ำเป็นเวลานาน ปัญหาแรงดันสูงอั้นในกระบอกนั้น แรกๆอาจยังไม่มีการรั่วซึม แต่เมื่อมีการใช้งานนานขึ้น แรงดันที่อั้นอยู่จะดันให้เนื้อกระบอกขยายตัวออกได้ ดังนั้นเมื่อมีการติดตั้งกับน้ำที่มีแรงดันสูง จึงสมควรติดตั้งชุดลดแรงดันด้วย
ก่อนจะเลือกเครื่องกรองน้ำ ต้องทราบลักษณะของน้ำที่จะผ่านเครื่องกรอง เช่น น้ำบาดาล หรือ น้ำประปา เพื่อเลือกไส้กรองที่เหมาะสมกับลักษณะของน้ำ นอกจากนี้ต้องทราบจำนวนสมาชิกภายในบ้าน เพื่อเลือกกำลังผลิตน้ำได้เพียงพอต่อวัน เครื่องกรองน้ำในครัวเรือนแบ่งคร่าวๆ ได้ 2 ประเภท คือ เครื่องกรองน้ำใช้ และเครื่องกรองน้ำดื่ม • เครื่องกรองน้ำใช้ เป็นเครื่องกรองน้ำประปา หรือ กรองน้ำบาดาลก่อนเข้าสู่ระบบท่อน้ำดีในบ้าน เพื่อคัดกรองแร่ธาตุ และสิ่งสกปรก ที่อาจเข้าสู่ระบบน้ำดีภายในบ้าน ทำให้ท่ออุดตัน และขึ้นสนิม มักใช้คู่กับปั๊มน้ำและถังเก็บน้ำดี • เครื่องกรองน้ำดื่ม เป็นเครื่องกรองน้ำคุณภาพสูงขึ้น ด้วยไส้กรองหลายชั้น คัดกรองอนุภาคและสิ่งสกปรก บางรุ่นมีคุณสมบัติฆ่าเชื้อจุลินทรีย์ ใช้ต่อกับน้ำประปาเพื่อกรองน้ำดื่มภายในครัวเรือน
เครื่องกรองน้ำใช้ที่สารกรองเป็นหินซีโอไลท์นั้น เป็นสารกรองที่สามารถกรองเศษสิ่งสกปรกตะกอนฝุ่นละอองที่ปะปนมากับน้ำ ลดคราบเหล็กและตะกรันที่เกาะตามสุขภัณฑ์ ช่วยดูดซับกลิ่นแอมโมเนียหรือกลิ่นแก๊สไข่เน่า ช่วยให้น้ำมีความสะอาดน่าใช้มากยิ่งขึ้น
ในแต่ละพื้นที่มีสภาพของน้ำที่ต่างกัน บางพื้นที่อาจมีความขุ่นของน้ำมากกว่าที่อื่นๆ จึงทำให้ไส้กรองเกิดการอุดตันเร็วกว่าอายุการใช้งานที่กำหนด ซึ่งในลักษณะนี้อาจแนะนำให้มีการติดตั้งตัวกรองหยาบเพิ่มเติมเพื่อเป็นการยืดอายุการใช้งานของไส้กรองน้ำ
เครื่องกรองสามารถทนแรงดันน้ำได้ที่ 4 Bar ซึ่งโดยปกติน้ำประปาจะมีแรงดันอยู่ที่ประมาณไม่เกิน 1 - 1.5 Bar แต่ในส่วนของบ้านลูกค้าที่มีการติดตั้งปั๊มน้ำเพิ่มเติม หรือที่ติดตั้งเป็นคอนโดฯ จะมีแรงดันน้ำที่มากขึ้น แนะนำให้มีการตรวจวัดแรงดันน้ำก่อนการติดตั้ง ถ้ามีแรงดันน้ำสูง (ตั้งแต่ประมาณ 3 Bar ขึ้นไป) แนะนำให้มีการติดตั้งวาล์วลดแรงดันน้ำ เพื่อเป็นการลดการขยายตัวของชุดกระบอกที่ต้องทนแรงอั้นของน้ำเป็นเวลานาน ปัญหาแรงดันสูงอั้นในกระบอกนั้น แรกๆ อาจยังไม่มีการรั่วซึม แต่เมื่อมีการใช้งานนานขึ้น แรงดันที่อั้นอยู่จะดันให้เนื้อกระบอกขยายตัวออกได้ ดังนั้นเมื่อมีการติดตั้งกับน้ำที่มีแรงดันสูง จึงสมควรติดตั้งชุดลดแรงดันด้วย
การกรองน้ำระบบ RO (Reverse Osmosis) นั้นเป็นระบบการกรองที่แยกโมเลกุลน้ำสะอาดออกจากสารประกอบอื่นๆ ด้วยไส้กรองที่มีความละเอียดของรูพรุนสูงสุด 0.0001 ไมครอน การคัดแยกนี้จะมีการซึมผ่านเยื่อเมมเบรนได้เฉพาะน้ำบริสุทธิ์เท่านั้น ส่วนน้ำที่มีการปะปนของสารประกอบอื่นๆจะถูกแยกออกมาเป็นน้ำทิ้ง ซึ่งโดยทั่วไปจะได้น้ำสะอาดประมาณ 40 % และน้ำทิ้ง 60 %
ไส้คาร์บอนมีประสิทธิภาพในการดูดซับ กลิ่น และสารเคมีได้เป็นอย่างดี ดังนั้นถ้าน้ำที่ผ่านเครื่องกรองออกมาแล้วมีกลิ่นแสดงว่าไส้กรองเสื่อมประสิทธิภาพจากการใช้งานมานานหรือมีการแตกร้าวด้านในของไส้กรองทำให้น้ำที่ไม่ผ่านการดูดซับปะปนออกมา หรือในน้ำมีคลอรีนมาก จึงทำให้ไส้กรองมีอายุสั้น แนะนำติดตั้งกรองคาร์บอนเพิ่มหรือเปลี่ยนกรองคาร์บอนเมื่อมีกลิ่น หรือใช้เครื่องกรองระบบ RO แทน อย่างไรก็ตามน้ำประปา จะมีคลอรีนมาด้วยเพื่อฆ่าเชื้อโรค หรืออาจมีสนิมจากท่อประปาก็ได้ บางฤดูอาจมีรสชาดเค็ม และบางครั้งอาจจมีสิ่งแปลกปลอมจากท่อประปาแตกหรือมีการซ่อมของท่อประปา
ระยะเวลาในการเปลี่ยนไส้กรองที่แนะนำนั้น มีการทดสอบว่า เป็นช่วงระยะเวลาที่เหมาะสมแล้ว การใช้งานไส้กรองที่เกินกำหนดการเปลี่ยนนั้น อาจทำให้เราดื่มน้ำจากไส้กรองที่เสื่อมประสิทธิภาพการทำงาน ได้น้ำไม่สะอาดเท่าที่ควร
แนะนำให้เปลี่ยนไส้กรองน้ำทุกปี เพื่อรักษาคุณภาพน้ำให้ได้มาตราฐาน
- ไส้กรอง PP ให้ทำความสะอาดด้วยการถอดออกมาแล้วใช้น้ำฉีดทำความสะอาดผิวภายนอกให้สะอาดได้ ห้ามใช้แปรงหรือของแข็ง ถูบริเวณตัวไส้กรอง เพราะจะทำให้ไส้หลุดร่อน ฉีกขาดได้ - ไส้กรอง คาร์บอนบล็อก 0.5 และ 0.3 ไมครอน ให้ถอดออกมาใช้น้ำฉีดทำความสะอาด และใช้แปรงนิ่มขนอ่อน เช่น แปรงสีฟัน ขัดบริเวณที่สกปรกให้สะอาด แล้วประกอบเข้าที่เดิม - ไส้กรองเรซิ่น ทำความสะอาดด้วยการเตรียมน้ำเกลือ 10 % ( เกลือ 100 กรัม/น้ำ 1 ลิตร ) แล้วนำไส้กรองลงไปแช่ให้ท่วมไส้กรอง เขย่าให้เม็ดเรซิ่นด้านในให้เกิดการเสียดสีกัน เพื่อให้เกิดการคายประจุออกมาเป็นการฟื้นฟูประสิทธิภาพการกรอง ใช้เวลาประมาณ 25 – 30 นาที แล้วล้างน้ำเปล่าให้หมดความเค็ม เสร็จแล้วให้ประกอบเข้าที่ โดยตรวจดูการใส่ไส้กรองให้ถูกต้องด้วย
โดยปกติแล้วบริษัทจะมีระบบการแจ้งเตือนเมื่อถึงกำหนดเวลา โดยเปลี่ยนตามอายุของแต่ละไส้กรองเป็นหลัก แต่ในการใช้งานนั้นสามารถสังเกตได้จากความผิดปกติในการใช้งานได้ เช่น น้ำที่กรองออกมามีกลิ่นผิดปกติ มีกลิ่นเหมือนสารเคมีปนมากับในน้ำ หรืออัตราการไหลของน้ำที่ช้าลง ก็น่าจะถึงเวลาเปลี่ยนไส้กรองได้แล้ว