ตอนนี้น้ำประปาในบางพื้นที่มีรสเค็ม เนื่องจากน้ำทะเลหนุน หากต้องการซื้อเครื่องกรองน้ำจะต้องคำนึงถึงเครื่องกรองที่สามารถกรองน้ำกร่อยได้
ดูเครื่องกรองน้ำกร่อยรหัสอ้างอิง X1234
ไม่ได้รับรหัส? ส่งรหัสอีกครั้ง ในอีก 59 วินาที
รหัสอ้างอิง X1234
ไม่ได้รับรหัส? ส่งรหัสอีกครั้ง ในอีก 59 วินาที
ระบบการกรอง RO มีไว้เพื่อใช้คัดแยกสารละลายที่สะสมอยู่ในน้ำปริมาณสูงๆ ให้ลดน้อยลง ซึ่งมักใช้งานในพื้นที่ใช้น้ำจากแหล่งบาดาล พื้นที่ติดกับชายทะเล หรือพื้นที่ที่มีปัญหาน้ำกร่อย เพื่อเป็นการคัดแยกสารละลายให้มีปริมาณที่เหมาะสมแก่การดื่ม ซึ่งการกรองในระบบอื่นไม่สามารถทำได้
ปัจจุบันบ้านส่วนใหญ่นิยมมีถังเก็บน้ำเพื่อสำหรับเก็บน้ำไว้ใช้ได้ตลอด แต่ถังน้ำขนาดใหญ่นี้โดยมากขาดการล้าง และปล่อยให้มีสิ่งปนเปื้อนที่มากับน้ำสะสมอยู่ภายในถัง เมื่อผ่านไปนานๆสิ่งสกปรกก็ปนเปื้อนเข้าไปในบ้านทำให้เกิดการอุดตันของก๊อกน้ำ เครื่องใช้ไฟฟ้า และคราบสะสมที่สุขภัณฑ์ต่างๆ การติดตั้งเครื่องกรองน้ำใช้จึงช่วยลดการสะสมของสิ่งสกปรกเหล่านี้และยืดเวลาในการล้างถังเก็บน้ำให้นานขึ้นด้วย
ในน้ำปกติมีแร่ธาตุที่เราต้องการอยู่น้อย ทำให้เราไม่ต้องกลัวว่าจะขาดแร่ธาตุจากการที่ดื่มน้ำ RO เพราะแร่ธาตุที่เราได้รับนั้นเกือบทั้งหมดมาจากการทานอาหารที่ทานทั้งสิ้น และน้ำดื่มที่บรรจุขวดจำหน่ายในตลาดเกือบทั้งหมดจะเป็น RO
เครื่องกรองสามารถทนแรงดันน้ำได้ที่ 4 Bar ซึ่งโดยปกติน้ำประปาจะมีแรงดันอยู่ที่ประมาณไม่เกิน 1 - 1.5 Barแต่ในส่วนของบ้านลูกค้าที่มีการติดตั้งปั๊มน้ำเพิ่มเติมหรือที่ติดตั้งเป็นคอนโดฯ จะมีแรงดันน้ำที่มากขึ้น แนะนำให้มีการตรวจวัดแรงดันน้ำก่อนการติดตั้งถ้ามีแรงดันน้ำสูง (ตั้งแต่ประมาณ 3 Barขึ้นไป) แนะนำให้มีการติดตั้งวาล์วลดแรงดันน้ำเพื่อเป็นการลดการขยายตัวของชุดกระบอกที่ต้องทนแรงอั้นของน้ำเป็นเวลานาน ปัญหาแรงดันสูงอั้นในกระบอกนั้น แรกๆอาจยังไม่มีการรั่วซึม แต่เมื่อมีการใช้งานนานขึ้น แรงดันที่อั้นอยู่จะดันให้เนื้อกระบอกขยายตัวออกได้ ดังนั้นเมื่อมีการติดตั้งกับน้ำที่มีแรงดันสูง จึงสมควรติดตั้งชุดลดแรงดันด้วย
เมื่อไม่ได้ใช้น้ำก็จะมีน้ำค้างอยู่ในกระบอก เมื่อไม่มีน้ำเข้ามาแทนที่เป็นเวลานานก็อาจทำให้เกิดกลิ่นซึ่งเป็นเรื่องปกติได้ดังนั้นก่อนการรองน้ำให้เปิดน้ำทิ้งก่อน ประมาณ 1 - 2 นาที กลิ่นก็จะหายไป ถ้าไม่หายอาจเป็นเพราะไส้กรองอาจหมดอายุหรือเสื่อมประสิทธิภาพ จึงควรเปลี่ยนไส้กรอง
การกรองน้ำระบบ RO (Reverse Osmosis) นั้นเป็นระบบการกรองที่แยกโมเลกุลน้ำสะอาดออกจากสารประกอบอื่นๆ ด้วยไส้กรองที่มีความละเอียดของรูพรุนสูงสุด 0.0001 ไมครอน การคัดแยกนี้จะมีการซึมผ่านเยื่อเมมเบรนได้เฉพาะน้ำบริสุทธิ์เท่านั้น ส่วนน้ำที่มีการปะปนของสารประกอบอื่นๆจะถูกแยกออกมาเป็นน้ำทิ้ง ซึ่งโดยทั่วไปจะได้น้ำสะอาดประมาณ 40 % และน้ำทิ้ง 60 %
เครื่องกรองสามารถทนแรงดันน้ำได้ที่ 4 Bar ซึ่งโดยปกติน้ำประปาจะมีแรงดันอยู่ที่ประมาณไม่เกิน 1 - 1.5 Bar แต่ในส่วนของบ้านลูกค้าที่มีการติดตั้งปั๊มน้ำเพิ่มเติม หรือที่ติดตั้งเป็นคอนโดฯ จะมีแรงดันน้ำที่มากขึ้น แนะนำให้มีการตรวจวัดแรงดันน้ำก่อนการติดตั้ง ถ้ามีแรงดันน้ำสูง (ตั้งแต่ประมาณ 3 Bar ขึ้นไป) แนะนำให้มีการติดตั้งวาล์วลดแรงดันน้ำ เพื่อเป็นการลดการขยายตัวของชุดกระบอกที่ต้องทนแรงอั้นของน้ำเป็นเวลานาน ปัญหาแรงดันสูงอั้นในกระบอกนั้น แรกๆ อาจยังไม่มีการรั่วซึม แต่เมื่อมีการใช้งานนานขึ้น แรงดันที่อั้นอยู่จะดันให้เนื้อกระบอกขยายตัวออกได้ ดังนั้นเมื่อมีการติดตั้งกับน้ำที่มีแรงดันสูง จึงสมควรติดตั้งชุดลดแรงดันด้วย
โดยธรรมชาติแล้วในน้ำจะมีสารประกอบจำพวก แคลเซียม และ แมกนีเซียม ที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกายอยู่แล้วสารเหล่านี้ถ้ามีปริมาณมาก แล้วถูกนำไปต้มหรือแช่เย็นก็จะเปลี่ยนสภาพเป็นของแข็งจับตัวกับโลหะที่เราเรียกว่า ตะกรัน ซึ่งสารประกอบสำคัญที่ทำให้เกิดเป็นตะกรันก็คือ หินปูน นั่นเอง *วิธีแก้ ปัญหานี้มักจะเกิดจากน้ำดิบที่นำมากรองมีค่าความกระด้างสูง จึงต้องแนะนำให้มีการใช้ไส้กรองเรซิ่นเพิ่มเติมเพื่อเป็นการลดความกระด้างส่วนในรายที่มีการใช้ไส้เรซิ่นอยู่แล้วนั้น เป็นเพราะความสามารถในการแลกเปลี่ยนประจุของเม็ดเรซิ่นเสื่อมลงต้องนำไส้กรองไปล้างน้ำเกลือ 10 % เพื่อเป็นฟื้นฟูความสามารถในการแลกเปลี่ยนประจุเข้าไปใหม่ใช้เวลาประมาณ 25 - 30 นาที หรือเปลี่ยนใหม่ ก็จะทำให้ลดการเกิดตะกรันลงได้
ระยะเวลาในการเปลี่ยนไส้กรองที่แนะนำนั้นมีการทดสอบว่าเป็นช่วงระยะเวลาที่เหมาะสมแล้ว การใช้งานไส้กรองที่เกินกำหนดการเปลี่ยนนั้น อาจทำให้เราดื่มน้ำจากไส้กรองที่เสื่อมประสิทธิภาพการทำงาน ได้น้ำไม่สะอาดเท่าที่ควร
ในการผลิตไส้กรองคาร์บอนนั้นจะใช้ความร้อนสูงในการอัดแท่ง ทำให้ผิวของไส้กรองคาร์บอนมีความเป็นด่างมากขึ้นเมื่อนำน้ำไปแช่เย็นจึงทำให้เกิดฝ้าสีขาวขึ้นได้ ซึ่งความเป็นด่างของคาร์บอนนี้จะค่อยๆปรับลดลงเองโดยการใช้งานต่อเนื่องวิธีแก้ให้มีการเปิดน้ำทิ้งในการใช้งานไส้กรองชุดใหม่ประมาณ 10 - 15 นาที เพื่อเป็นการปรับสภาพของไส้กรองให้มีความเป็นกลางนั่นเอง
ปัญหาในลักษณะนี้มักเกิดจากภาชนะที่นำมาบรรจุนั้น มีการปนเปื้อนหรือมีการใช้บรรจุซ้ำหลายครั้ง และอาจได้รับการเร่งปฏิกิริยาจากสิ่งแวดล้อมเช่น แสงแดด หรืออุณหภูมิที่เหมาะสม ก็จะทำให้เกิดตะไคร่ขึ้นได้ภาชนะที่ใช้บรรจุนั้นแนะนำให้ใช้ภาชนะที่สำหรับบรรจุน้ำเท่านั้น และให้เก็บในที่แห้งแสงแดดส่องไม่ถึงรวมทั้งไม่รองน้ำเก็บไว้ครั้งละมากๆ แต่ให้มีการใช้งานเครื่องอย่างสม่ำเสมอจะเหมาะสมกว่า
- ไส้กรอง PP ให้ทำความสะอาดด้วยการถอดออกมาแล้วใช้น้ำฉีดทำความสะอาดผิวภายนอกให้สะอาดได้ ห้ามใช้แปรงหรือของแข็ง ถูบริเวณตัวไส้กรอง เพราะจะทำให้ไส้หลุดร่อน ฉีกขาดได้ - ไส้กรอง คาร์บอนบล็อก 0.5 และ 0.3 ไมครอน ให้ถอดออกมาใช้น้ำฉีดทำความสะอาด และใช้แปรงนิ่มขนอ่อน เช่น แปรงสีฟัน ขัดบริเวณที่สกปรกให้สะอาด แล้วประกอบเข้าที่เดิม - ไส้กรองเรซิ่น ทำความสะอาดด้วยการเตรียมน้ำเกลือ 10 % ( เกลือ 100 กรัม/น้ำ 1 ลิตร ) แล้วนำไส้กรองลงไปแช่ให้ท่วมไส้กรอง เขย่าให้เม็ดเรซิ่นด้านในให้เกิดการเสียดสีกัน เพื่อให้เกิดการคายประจุออกมาเป็นการฟื้นฟูประสิทธิภาพการกรอง ใช้เวลาประมาณ 25 – 30 นาที แล้วล้างน้ำเปล่าให้หมดความเค็ม เสร็จแล้วให้ประกอบเข้าที่ โดยตรวจดูการใส่ไส้กรองให้ถูกต้องด้วย