เครื่องกรองน้ำแบบไหนดี ตอบโจทย์ครอบครัว

ก่อนจะเลือกเครื่องกรองน้ำ ต้องทราบลักษณะของน้ำที่จะผ่านเครื่องกรอง เช่น น้ำบาดาล หรือ น้ำประปา เพื่อเลือกไส้กรองที่เหมาะสมกับลักษณะของน้ำ นอกจากนี้ต้องทราบจำนวนสมาชิกภายในบ้าน เพื่อเลือกกำลังผลิตน้ำได้เพียงพอต่อวัน เครื่องกรองน้ำในครัวเรือนแบ่งคร่าวๆ ได้ 2 ประเภท คือ เครื่องกรองน้ำใช้ และเครื่องกรองน้ำดื่ม • เครื่องกรองน้ำใช้ เป็นเครื่องกรองน้ำประปา หรือ กรองน้ำบาดาลก่อนเข้าสู่ระบบท่อน้ำดีในบ้าน เพื่อคัดกรองแร่ธาตุ และสิ่งสกปรก ที่อาจเข้าสู่ระบบน้ำดีภายในบ้าน ทำให้ท่ออุดตัน และขึ้นสนิม มักใช้คู่กับปั๊มน้ำและถังเก็บน้ำดี • เครื่องกรองน้ำดื่ม เป็นเครื่องกรองน้ำคุณภาพสูงขึ้น ด้วยไส้กรองหลายชั้น คัดกรองอนุภาคและสิ่งสกปรก บางรุ่นมีคุณสมบัติฆ่าเชื้อจุลินทรีย์ ใช้ต่อกับน้ำประปาเพื่อกรองน้ำดื่มภายในครัวเรือน

วิธีเลือกซื้อเครื่องกรองน้ำ

1. รู้ส่วนประกอบของน้ำที่ใช้ในครัวเรือน ก่อนอื่นต้องทราบองค์ประกอบของน้ำที่ใช้ในบ้านของเรา หากเป็นน้ำประปาก็เป็นน้ำที่ทำให้สะอาดมาในระดับหนึ่งแล้ว แต่หากเป็นน้ำจากแหล่งน้ำธรรมชาติ โดยเฉพาะน้ำบาดาล ก็จะมีแร่ธาตุที่ต้องกรองออกเยอะกว่าน้ำประปา เช่น ธาตุไนเตรต, ฟลูออไรด์ และกลิ่นไม่พึงประสงค์ รวมถึงต้องใช้เครื่องกรองที่ฆ่าเชื้อโรคจุลินทรีย์ต่างๆ ได้ 2. รู้วัตถุประสงค์ของน้ำที่จะใช้ หากต้องการน้ำสะอาดไว้ดื่ม จำเป็นต้องเลือกเครื่องกรองน้ำคุณภาพสูง แต่หากต้องการน้ำสำหรับอาบ หรือบริโภคอื่นๆ ก็ใช้เครื่องกรองน้ำธรรมดาทั่วไป ที่ราคาไม่สูงมากนัก เพื่อกรองตะกอน และกลิ่นก็เพียงพอ 3. รู้ไส้กรองของเครื่องกรองน้ำที่เลือก ผู้บริโภคควรสอบถามถึงไส้กรองที่ใช้ในเครื่องกรองน้ำรุ่นต่างๆ จะได้ทราบคุณสมบัติการกรอง และการฆ่าเชื้อโรค เพื่อตรงกับวัตถุประสงค์ที่เลือกใช้ เช่น หากต้องการน้ำบริสุทธิ์สำหรับดื่มโดยไม่ต้องนำมาต้มอีก ก็ควรเป็นเครื่องกรองน้ำที่ฆ่าเชื้อโรคได้ในตัว 4. เปรียบเทียบราคาเครื่องกรองน้ำยี่ห้อต่างๆ ในคุณสมบัติเดียวกัน ราคาของเครื่องกรองน้ำควรจะไม่ต่างกันมาก บางยี่ห้อเพิ่มประกันหลังการขาย พร้อมบริการเปลี่ยนไส้กรองตามอายุการใช้งาน ซึ่งตอบโจทย์การใช้งานของผู้บริโภคที่ต้องการบริการหลังการขาย 5. เลือกเครื่องกรองน้ำที่ได้รับมาตรฐานอุตสาหกรรม อย่าดูที่ยี่ห้อ และราคาเพียงอย่างเดียว ต้องดูสัญลักษณ์มาตรฐานที่ได้รับการรองรับจากกระทรวงอุตสาหกรรม เพื่อยืนยันความปลอดภัยเบื้องต้น

มาตรฐานเครื่องกรองน้ำที่ต้องรู้

น้ำ ถือว่าเป็นปัจจัยสำคัญที่มนุษย์อย่างเราๆ จำเป็นในการดำรงชีวิต เราจึงควรเลือกเลือกดื่มน้ำที่สะอาดและปลอดภัย เครื่องกรองน้ำจึงถูกผลิตมาเพื่อเป็นอุปกรณ์ช่วยในการขจัดสารปนเปื้อนที่มากับน้ำดื่มและการติดตั้งเครื่องกรองน้ำสำหรับใช้ในบ้านจึงเป็นวิธีที่ดีและง่ายที่สุดในการกรองน้ำสะอาด ดังนั้น การเลือกเครื่องกรองน้ำสำหรับใช้ภายในบ้านจึงเป็นเรื่องสำคัญ แต่เครื่องกรองน้ำที่เลือกควรได้รับการรับรองและผ่านมาตรฐานสากลที่ได้รับการยอมรับจากทั่วโลก ก่อนจะตัดสินใจเลือกซื้อเครื่องกรองน้ำ เรามาทำความรู้จักมาตรฐานเครื่องกรองน้ำกันก่อนดีกว่า ว่ามีหลักเกณฑ์การประเมินอย่างไรบ้าง มาตรฐาน NSF/ANSI คือ การควบคุมโดยองค์กรส่งเสริมอนามัยแห่งชาติระหว่างประเทศมีหลักเกณฑ์ในการประเมินประสิทธิภาพของเครื่องกรองน้ำที่ถูกต้อง และได้รับการยอมรับในหลายประเทศ เครื่องกรองน้ำที่ผ่านการตรวจสอบโดย NSF International คือ ผลกระทบด้านกายภาพ : ทดสอบประสิทธิภาพของเครื่องกรองน้ำในการลดปริมาณสิ่งปนเปื้อนใน น้ำดื่มที่มีผลกระทบต่อรสชาติ กลิ่น และความใสของน้ำดื่ม ผลกระทบด้านสุขภาพ : ทดสอบประสิทธิภาพของเครื่องกรองน้ำในการลดปริมาณสิ่งปนเปื้อนใน น้ำดื่มที่มีอยู่มากมายหลายชนิดรวมถึงสารตะกั่ว แร่ใยหิน สารประกอบอินทรีย์ที่ระเหยได้ และสารกำจัดศัตรูพืช การบำบัดน้ำทางจุลชีววิทยาด้วยแสงอุลตร้าไวโอเล็ท : ทดสอบกับเครื่องกรองน้ำที่ใช้ แสงอุลตร้าไวโอเล็ทในการกำจัดเชื้อโรคในน้ำดื่ม

การใช้งานระบบ RO ต่างจากการใช้งานทั่วไปอย่างไร?

ระบบการกรอง RO มีไว้เพื่อใช้คัดแยกสารละลายที่สะสมอยู่ในน้ำปริมาณสูงๆ ให้ลดน้อยลง ซึ่งมักใช้งานในพื้นที่ใช้น้ำจากแหล่งบาดาล พื้นที่ติดกับชายทะเล หรือพื้นที่ที่มีปัญหาน้ำกร่อย เพื่อเป็นการคัดแยกสารละลายให้มีปริมาณที่เหมาะสมแก่การดื่ม ซึ่งการกรองในระบบอื่นไม่สามารถทำได้

ไส้กรอง UF Membranes ต่างจากไส้กรอง RO Membranes อย่างไร?

ไส้กรอง UF เป็นไส้กรองเมมเบรนชนิดหนึ่ง มีความละเอียดของรูพรุนอยู่ที่ 0.01 ไมครอน (RO 0.0001)UF สามารถกรองสิ่งปนเปื้อน เชื้อจุลินทรีย์และแบคทีเรียขนาดเล็กที่ปนเปื้อนมากับในน้ำได้ทั้งยังคงรักษาแร่ธาตุในน้ำที่มีประโยชน์ได้ UFไม่มีน้ำทิ้ง

ระบบ RO กรองแร่ธาตุออกหมดก็ไม่ดีน่ะซิ?

ในน้ำปกติมีแร่ธาตุที่เราต้องการอยู่น้อย ทำให้เราไม่ต้องกลัวว่าจะขาดแร่ธาตุจากการที่ดื่มน้ำ RO เพราะแร่ธาตุที่เราได้รับนั้นเกือบทั้งหมดมาจากการทานอาหารที่ทานทั้งสิ้น และน้ำดื่มที่บรรจุขวดจำหน่ายในตลาดเกือบทั้งหมดจะเป็น RO

เครื่องกรองน้ำใช้จำเป็นกับน้ำประปาไหม?

ปัจจุบันบ้านส่วนใหญ่นิยมมีถังเก็บน้ำเพื่อสำหรับเก็บน้ำไว้ใช้ได้ตลอด แต่ถังน้ำขนาดใหญ่นี้โดยมากขาดการล้าง และปล่อยให้มีสิ่งปนเปื้อนที่มากับน้ำสะสมอยู่ภายในถัง เมื่อผ่านไปนานๆสิ่งสกปรกก็ปนเปื้อนเข้าไปในบ้านทำให้เกิดการอุดตันของก๊อกน้ำ เครื่องใช้ไฟฟ้า และคราบสะสมที่สุขภัณฑ์ต่างๆ การติดตั้งเครื่องกรองน้ำใช้จึงช่วยลดการสะสมของสิ่งสกปรกเหล่านี้และยืดเวลาในการล้างถังเก็บน้ำให้นานขึ้นด้วย

แล้วเครื่องกรองน้ำใช้ช่วยกรองอะไรได้บ้าง?

เครื่องกรองน้ำใช้ที่สารกรองเป็นหินซีโอไลท์นั้น เป็นสารกรองที่สามารถกรองเศษสิ่งสกปรกตะกอนฝุ่นละอองที่ปะปนมากับน้ำ ลดคราบเหล็กและตะกรันที่เกาะตามสุขภัณฑ์ ช่วยดูดซับกลิ่นแอมโมเนียหรือกลิ่นแก๊สไข่เน่า ช่วยให้น้ำมีความสะอาดน่าใช้มากยิ่งขึ้น

เครื่องกรองสามารถทนแรงดันน้ำได้เท่าไร?

เครื่องกรองสามารถทนแรงดันน้ำได้ที่ 4 Bar ซึ่งโดยปกติน้ำประปาจะมีแรงดันอยู่ที่ประมาณไม่เกิน 1 - 1.5 Barแต่ในส่วนของบ้านลูกค้าที่มีการติดตั้งปั๊มน้ำเพิ่มเติมหรือที่ติดตั้งเป็นคอนโดฯ จะมีแรงดันน้ำที่มากขึ้น แนะนำให้มีการตรวจวัดแรงดันน้ำก่อนการติดตั้งถ้ามีแรงดันน้ำสูง (ตั้งแต่ประมาณ 3 Barขึ้นไป) แนะนำให้มีการติดตั้งวาล์วลดแรงดันน้ำเพื่อเป็นการลดการขยายตัวของชุดกระบอกที่ต้องทนแรงอั้นของน้ำเป็นเวลานาน ปัญหาแรงดันสูงอั้นในกระบอกนั้น แรกๆอาจยังไม่มีการรั่วซึม แต่เมื่อมีการใช้งานนานขึ้น แรงดันที่อั้นอยู่จะดันให้เนื้อกระบอกขยายตัวออกได้ ดังนั้นเมื่อมีการติดตั้งกับน้ำที่มีแรงดันสูง จึงสมควรติดตั้งชุดลดแรงดันด้วย

น้ำไหลเบาลงเกิดจากอะไร?

เมื่อใช้งานไส้กรองน้ำไปสักระยะหนึ่ง ไส้กรองก็ต้องเกิดการอุดตันเป็นเรื่องปกติ ทำให้น้ำไหลช้าลงได้ แต่ทั้งนี้ต้องมีการตรวจสอบอายุการใช้งานไส้กรอง การหักพับของสายน้ำ หรือแรงดันน้ำประปาว่า ปกติหรือไม่ เพราะบางครั้งที่น้ำไหลเบาก็ไม่ได้เกิดจากการอุดตันของไส้กรองอย่างเดียว

เครื่องสามารถทนแรงดันน้ำได้เท่าไร?

เครื่องกรองสามารถทนแรงดันน้ำได้ที่ 4 Bar ซึ่งโดยปกติน้ำประปาจะมีแรงดันอยู่ที่ประมาณไม่เกิน 1 - 1.5 Bar แต่ในส่วนของบ้านลูกค้าที่มีการติดตั้งปั๊มน้ำเพิ่มเติม หรือที่ติดตั้งเป็นคอนโดฯ จะมีแรงดันน้ำที่มากขึ้น แนะนำให้มีการตรวจวัดแรงดันน้ำก่อนการติดตั้ง ถ้ามีแรงดันน้ำสูง (ตั้งแต่ประมาณ 3 Bar ขึ้นไป) แนะนำให้มีการติดตั้งวาล์วลดแรงดันน้ำ เพื่อเป็นการลดการขยายตัวของชุดกระบอกที่ต้องทนแรงอั้นของน้ำเป็นเวลานาน ปัญหาแรงดันสูงอั้นในกระบอกนั้น แรกๆ อาจยังไม่มีการรั่วซึม แต่เมื่อมีการใช้งานนานขึ้น แรงดันที่อั้นอยู่จะดันให้เนื้อกระบอกขยายตัวออกได้ ดังนั้นเมื่อมีการติดตั้งกับน้ำที่มีแรงดันสูง จึงสมควรติดตั้งชุดลดแรงดันด้วย

ทำไมการกรองน้ำระบบ RO ถึงจะต้องมีน้ำทิ้ง และทิ้งเท่าไร? ได้น้ำผ่านการกรองเท่าไร?

การกรองน้ำระบบ RO (Reverse Osmosis) นั้นเป็นระบบการกรองที่แยกโมเลกุลน้ำสะอาดออกจากสารประกอบอื่นๆ ด้วยไส้กรองที่มีความละเอียดของรูพรุนสูงสุด 0.0001 ไมครอน การคัดแยกนี้จะมีการซึมผ่านเยื่อเมมเบรนได้เฉพาะน้ำบริสุทธิ์เท่านั้น ส่วนน้ำที่มีการปะปนของสารประกอบอื่นๆจะถูกแยกออกมาเป็นน้ำทิ้ง ซึ่งโดยทั่วไปจะได้น้ำสะอาดประมาณ 40 % และน้ำทิ้ง 60 %

ใช้งานเครื่องกรองน้ำสักระยะแล้ว น้ำไหลน้อยลง แต่ยังไม่ถึงกำหนดเปลี่ยนไส้กรองเลยเป็นเพราะอะไร?

ในแต่ละพื้นที่มีสภาพของน้ำที่ต่างกัน บางพื้นที่อาจมีความขุ่นของน้ำมากกว่าที่อื่นๆ จึงทำให้ไส้กรองเกิดการอุดตันเร็วกว่าอายุการใช้งานที่กำหนด ซึ่งในลักษณะนี้อาจแนะนำให้มีการติดตั้งตัวกรองหยาบเพิ่มเติมเพื่อเป็นการยืดอายุการใช้งานของไส้กรองน้ำ

น้ำที่กรองออกมามีกลิ่นคลอรีน หรือกลิ่นแปลกๆ เพราะอะไร?

ไส้คาร์บอนมีประสิทธิภาพในการดูดซับ กลิ่น และสารเคมีได้เป็นอย่างดี ดังนั้นถ้าน้ำที่ผ่านเครื่องกรองออกมาแล้วมีกลิ่นแสดงว่าไส้กรองเสื่อมประสิทธิภาพจากการใช้งานมานานหรือมีการแตกร้าวด้านในของไส้กรองทำให้น้ำที่ไม่ผ่านการดูดซับปะปนออกมา หรือในน้ำมีคลอรีนมาก จึงทำให้ไส้กรองมีอายุสั้น แนะนำติดตั้งกรองคาร์บอนเพิ่มหรือเปลี่ยนกรองคาร์บอนเมื่อมีกลิ่น หรือใช้เครื่องกรองระบบ RO แทน อย่างไรก็ตามน้ำประปา จะมีคลอรีนมาด้วยเพื่อฆ่าเชื้อโรค หรืออาจมีสนิมจากท่อประปาก็ได้ บางฤดูอาจมีรสชาดเค็ม และบางครั้งอาจจมีสิ่งแปลกปลอมจากท่อประปาแตกหรือมีการซ่อมของท่อประปา

ทำไมไม่ได้ใช้น้ำนานๆ พอมาเปิดน้ำถึงมีกลิ่นแปลกๆ ไม่น่าดื่มเลย

เมื่อไม่ได้ใช้น้ำก็จะมีน้ำค้างอยู่ในกระบอก เมื่อไม่มีน้ำเข้ามาแทนที่เป็นเวลานานก็อาจทำให้เกิดกลิ่นซึ่งเป็นเรื่องปกติได้ดังนั้นก่อนการรองน้ำให้เปิดน้ำทิ้งก่อน ประมาณ 1 - 2 นาที กลิ่นก็จะหายไป ถ้าไม่หายอาจเป็นเพราะไส้กรองอาจหมดอายุหรือเสื่อมประสิทธิภาพ จึงควรเปลี่ยนไส้กรอง

น้ำที่กรองออกมาทีแรกรู้สึกหวาน ทำไมใช้ไปนานๆรู้สึกหวานลดลง

ในกระบวนการผลิตไส้กรองคาร์บอนนั้น การอัดแท่งจะต้องใช้ความร้อนสูงทำให้ตัวไส้กรองมีความเป็นด่างเพิ่มขึ้นไส้กรองที่มีความเป็นด่างจะให้รสชาติน้ำที่ค่อนข้างหวาน แต่เมื่อมีการใช้งานไปนานขึ้น ความเป็นด่างของไส้กรองจะปรับลดลงให้เป็นกลางมากขึ้น รสหวานเลยลดลงทำให้รู้สึกว่ารสเปลี่ยนไป ซึ่งเป็นปกติของการใช้งานเครื่องกรองน้ำ และกรองเรซินปรับสภาพน้ำดื่มมีประสิทธิภาพลดลง

ทำไมนำน้ำไปต้ม หรือ เอาไปทำน้ำแข็งแล้ว เกิดเป็นตะกรันสีขาวๆขึ้นมา?

โดยธรรมชาติแล้วในน้ำจะมีสารประกอบจำพวก แคลเซียม และ แมกนีเซียม ที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกายอยู่แล้วสารเหล่านี้ถ้ามีปริมาณมาก แล้วถูกนำไปต้มหรือแช่เย็นก็จะเปลี่ยนสภาพเป็นของแข็งจับตัวกับโลหะที่เราเรียกว่า ตะกรัน ซึ่งสารประกอบสำคัญที่ทำให้เกิดเป็นตะกรันก็คือ หินปูน นั่นเอง *วิธีแก้ ปัญหานี้มักจะเกิดจากน้ำดิบที่นำมากรองมีค่าความกระด้างสูง จึงต้องแนะนำให้มีการใช้ไส้กรองเรซิ่นเพิ่มเติมเพื่อเป็นการลดความกระด้างส่วนในรายที่มีการใช้ไส้เรซิ่นอยู่แล้วนั้น เป็นเพราะความสามารถในการแลกเปลี่ยนประจุของเม็ดเรซิ่นเสื่อมลงต้องนำไส้กรองไปล้างน้ำเกลือ 10 % เพื่อเป็นฟื้นฟูความสามารถในการแลกเปลี่ยนประจุเข้าไปใหม่ใช้เวลาประมาณ 25 - 30 นาที หรือเปลี่ยนใหม่ ก็จะทำให้ลดการเกิดตะกรันลงได้

ควรเปลี่ยนไส้กรองน้ำบ่อยแค่ไหน

แนะนำให้เปลี่ยนไส้กรองน้ำทุกปี เพื่อรักษาคุณภาพน้ำให้ได้มาตราฐาน

การล้างทำความสะอาดไส้กรองแต่ละแบบทำอย่างไร?

- ไส้กรอง PP ให้ทำความสะอาดด้วยการถอดออกมาแล้วใช้น้ำฉีดทำความสะอาดผิวภายนอกให้สะอาดได้ ห้ามใช้แปรงหรือของแข็ง ถูบริเวณตัวไส้กรอง เพราะจะทำให้ไส้หลุดร่อน ฉีกขาดได้ - ไส้กรอง คาร์บอนบล็อก 0.5 และ 0.3 ไมครอน ให้ถอดออกมาใช้น้ำฉีดทำความสะอาด และใช้แปรงนิ่มขนอ่อน เช่น แปรงสีฟัน ขัดบริเวณที่สกปรกให้สะอาด แล้วประกอบเข้าที่เดิม - ไส้กรองเรซิ่น ทำความสะอาดด้วยการเตรียมน้ำเกลือ 10 % ( เกลือ 100 กรัม/น้ำ 1 ลิตร ) แล้วนำไส้กรองลงไปแช่ให้ท่วมไส้กรอง เขย่าให้เม็ดเรซิ่นด้านในให้เกิดการเสียดสีกัน เพื่อให้เกิดการคายประจุออกมาเป็นการฟื้นฟูประสิทธิภาพการกรอง ใช้เวลาประมาณ 25 – 30 นาที แล้วล้างน้ำเปล่าให้หมดความเค็ม เสร็จแล้วให้ประกอบเข้าที่ โดยตรวจดูการใส่ไส้กรองให้ถูกต้องด้วย

จะรู้ได้อย่างไรว่า ถึงเวลาต้องเปลี่ยนไส้กรองน้ำแล้ว

โดยปกติแล้วบริษัทจะมีระบบการแจ้งเตือนเมื่อถึงกำหนดเวลา โดยเปลี่ยนตามอายุของแต่ละไส้กรองเป็นหลัก แต่ในการใช้งานนั้นสามารถสังเกตได้จากความผิดปกติในการใช้งานได้ เช่น น้ำที่กรองออกมามีกลิ่นผิดปกติ มีกลิ่นเหมือนสารเคมีปนมากับในน้ำ หรืออัตราการไหลของน้ำที่ช้าลง ก็น่าจะถึงเวลาเปลี่ยนไส้กรองได้แล้ว

ถ้าใช้ไส้กรองเกินกำหนดเวลาการเปลี่ยนไส้กรอง จะมีผลเสียอย่างไร?

ระยะเวลาในการเปลี่ยนไส้กรองที่แนะนำนั้น มีการทดสอบว่า เป็นช่วงระยะเวลาที่เหมาะสมแล้ว การใช้งานไส้กรองที่เกินกำหนดการเปลี่ยนนั้น อาจทำให้เราดื่มน้ำจากไส้กรองที่เสื่อมประสิทธิภาพการทำงาน ได้น้ำไม่สะอาดเท่าที่ควร

รองน้ำใส่ขวดไว้แล้วเกิดเป็นตะไคร่น้ำสีเขียว เกิดจากอะไร?

ปัญหาในลักษณะนี้มักเกิดจากภาชนะที่นำมาบรรจุนั้น มีการปนเปื้อนหรือมีการใช้บรรจุซ้ำหลายครั้ง และอาจได้รับการเร่งปฏิกิริยาจากสิ่งแวดล้อมเช่น แสงแดด หรืออุณหภูมิที่เหมาะสม ก็จะทำให้เกิดตะไคร่ขึ้นได้ภาชนะที่ใช้บรรจุนั้นแนะนำให้ใช้ภาชนะที่สำหรับบรรจุน้ำเท่านั้น และให้เก็บในที่แห้งแสงแดดส่องไม่ถึงรวมทั้งไม่รองน้ำเก็บไว้ครั้งละมากๆ แต่ให้มีการใช้งานเครื่องอย่างสม่ำเสมอจะเหมาะสมกว่า

เปิดน้ำหลังกรองออกมาแล้ว เจอแผ่นใยลักษณะเป็นเหมือนวุ้นสีขาว เกิดจากอะไร?

ในลักษณะนี้น่าจะเกิดจากแบคทีเรียที่เข้าไปสะสมอยู่ในทางเดินของน้ำ แล้วจับตัวกันเกาะเป็นแผ่นบางๆ ซึ่งจะหลุดปะปนออกมากับน้ำเมื่อมีน้ำไหลผ่าน ที่เรียกว่า ใบโอฟิล์ม ซึ่งจะพบในพื้นที่การติดตั้งที่ใกล้กับซิงก์น้ำล้างจาน หรือที่มีการแพร่กระจายของแบคทีเรียได้ง่าย และไม่ได้ใช้น้ำต่อเนื่อง การแก้ไข ให้ทำความสะอาดทางเดินของน้ำ อาจเป็นสายน้ำหรือก๊อกน้ำด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อในส่วนของภายนอก ส่วนของภายในท่อทางเดินน้ำให้ลวกด้วยน้ำร้อนก็จะทำให้ปัญหาดังกล่าวหายไป

น้ำที่กรองแล้วเอาไปแช่เย็น บางครั้งเกิดเป็นฝ้าสีขาวลอยอยู่บนผิวน้ำ

ในการผลิตไส้กรองคาร์บอนนั้นจะใช้ความร้อนสูงในการอัดแท่ง ทำให้ผิวของไส้กรองคาร์บอนมีความเป็นด่างมากขึ้นเมื่อนำน้ำไปแช่เย็นจึงทำให้เกิดฝ้าสีขาวขึ้นได้ ซึ่งความเป็นด่างของคาร์บอนนี้จะค่อยๆปรับลดลงเองโดยการใช้งานต่อเนื่องวิธีแก้ให้มีการเปิดน้ำทิ้งในการใช้งานไส้กรองชุดใหม่ประมาณ 10 - 15 นาที เพื่อเป็นการปรับสภาพของไส้กรองให้มีความเป็นกลางนั่นเอง

จะรู้ได้อย่างไรว่าถึงเวลาต้องเปลี่ยนไส้กรองน้ำแล้ว

โดยปกติแล้วบริษัทจะมีระบบการแจ้งเตือนเมื่อถึงกำหนดเวลา โดยเปลี่ยนตามอายุของแต่ละไส้กรองเป็นหลักแต่ในการใช้งานนั้นสามารถสังเกตได้จากความผิดปกติในการใช้งานได้ เช่น น้ำที่กรองออกมามีกลิ่นผิดปกติมีกลิ่นเหมือนสารเคมีปนมากับในน้ำ หรืออัตราการไหลของน้ำที่ช้าลง ก็น่าจะถึงเวลาเปลี่ยนไส้กรองได้แล้ว

ถ้าใช้ไส้กรองเกินกำหนดเวลาการเปลี่ยนไส้กรอง จะมีผลเสียอย่างไร?

ระยะเวลาในการเปลี่ยนไส้กรองที่แนะนำนั้นมีการทดสอบว่าเป็นช่วงระยะเวลาที่เหมาะสมแล้ว การใช้งานไส้กรองที่เกินกำหนดการเปลี่ยนนั้น อาจทำให้เราดื่มน้ำจากไส้กรองที่เสื่อมประสิทธิภาพการทำงาน ได้น้ำไม่สะอาดเท่าที่ควร